หน้าแรก บล็อก

ตั้งชื่อลูกชายเกิดวันอาทิตย์

ตามหลักโหราศาสตร์ไทย มีศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการตั้งชื่อ และชื่อสกุล ที่มาตั้งแต่โบร่ำโบราณ โดยยึดหลักอายตนะ 6 และอิธิพลตัวเลขของดวงดาว ที่เรียกว่าเลขศาสตร์ ในการตั้งชื่อเพื่อให้เป็นมงคล

เด็กผู้ชายเกิดวันอาทิตย์ เป็นคนเด็ดเดี่ยว ชอบเป็นผู้นำ โกรธง่ายหายเร็ว ด้วยบุคลิกของคนเกิดวันอาทิตย์มักเป็นผู้นำเสมอ โบราณท่านจึงแนะนำให้เด็กผู้ชายที่เกิดวันอาทิตย์นิยม ตั้งชื่อให้มี “อักษรเดช” นำหน้า เพราะจะได้เป็นที่เกรงขาม และตามด้วย อักษรที่เป็น ศรี และมนตรี ตามลำดับ ส่วนอักษรอื่นๆ สามารถเอามาเติมเต็มตามแต่จะปราถนาได้เช่นกัน เพื่อเสริมดวงให้เด่นไปในทางใดทางหนึ่ง เช่น

เสริมดวงทางด้าน มิตรสหายเยอะ จะนิยมตั้งชื่อให้มีอักษรที่เป็นบริวารเพิ่มเข้าไป ซึ่งได้แก่ สระต่างๆรวมถึงการันต์และไม้หันอากาศ
และหากจะเสริมดวงเรื่องทรัพย์สินเงินทอง จะนิยมประกอบด้วยอักษรที่เป็นมูละเข้าไปให้เป็นมงคลด้วยเช่นกัน

และอักษรที่ห้ามเด็ดขาดในการตั้งชื่อสำหรับคนที่เกิดวันอาทิตย์นั่นก็คือ อักษรที่เป็นกาลกิณีทั้งหมด ได้แก่ ศ ษ ส ห ฬ ฮ อ หากหลีกเลี่ยงได้ก็ควรหลีกเลี่ยง เพราะจะส่งผลไม่ดีกับชีวิตในระยะยาว

ทักษาอักษร สำหรับชื่อมงคลของคนเกิดวันอาทิตย์

อักษรที่เป็นบริวาร ได้แก่ สระ อะ อา อิ อี อึ อือ อุ อู เอ แอ โอ ไอ ใอ รวมถึงไม้หันอากาศ และ การันต์
อักษรที่เป็นอายุ ได้แก่ ก ข ค ฆ ง
อักษรที่เป็นเดช ได้แก่ จ ฉ ช ซ ฌ ญ
อักษรที่เป็นศรี ได้แก่ ฏ ฎ ฐ ฑ ฒ ณ
อักษรที่เป็นมูละ ได้แก่ ด ต ถ ท ธ น
อักษรที่เป็นอุตสาหะ ได้แก่ บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม
อักษรที่เป็นมนตรี ได้แก่ ย ร ล ว ฤ
อักษรที่เป็นกาลกิณี ได้แก่ ศ ษ ส ห ฬ ฮ อ

หลังจากเราเลือกชื่อได้ตรงตามหลักอารยตนะ 6 แล้ว สิ่งที่จำเป็นและขาดไม่ได้นั่นคือการวิเคราะห์ชื่อสกุล โดยจะต้องรวมตัวเลขของชื่อ และชื่อสกุลเพื่อการพิจารณา ซึ่งศาสตร์ในการวิเคราะห์ตัวเลขนั้นค่อนข้างลึกซึ้งและต้องอาศัยความเข้าใจในการวิเราะห์และทำนาย เอาเป็นว่าหากท่านจะตั้งชื่อลูกชาย ควรตั้งชื่อที่รวมได้เลขที่ให้คุณเช่น
” 14, 15, 19, 24, 36, 42, 54, 45, 63…”

  • โดยนามสกุลจะให้คุณในช่วงอายุ 0-30 ปี และชื่อ จะให้คุณในช่วง 31 ปีขึ้นไป
  • “ชื่อ”จะส่งผล 40%
  • “นามสกุล” ส่งผล 20%
  • และ ” ชื่อรวมกับนามสกุล” ส่งผลอีก 40%
  • รวมทั้งหมด 100%

จะเห็นได้ว่าการตั้งชื่อนั้นไม่ยาก และไม่ง่ายนัก อาจจะต้องคิดให้รอบคอบ แต่คิดว่าคงไม่เกินความพยายามของเราท่านๆไปได้หรอกครับ หากมีข้อซักถามหรือแลกเปลี่ยนความรู้ สามารถสอบถามมาได้ทั้งในเฟสบุ๊ก และในคอมเม้นในเว็บได้เช่นกันครับ
ฝากติดตามบทความใหม่ๆเดี๋ยวผมจะลองหาชื่อที่เป็นมงคลมาให้ท่านได้เลือกใช้กันครับ

ตั้งชื่อลูกสาวเกิดวันจันทร์

เด็กผู้หญิงที่เกิดวันจันทร์ นับว่าเป็นเด็กที่มีวาสนาดี เป็นคนพูดไพเราะอ่อนหวาน เป็นที่รักของคนที่พบเห็น ด้วยเหตุนี้จึงเป็นคนที่มีเพื่อนผูงมาก และเป็นคนที่มีอารมณ์ทางด้านศิลป์ ดังนั้นการจะตั้งชื่อสำหรับลูกสาวที่เกิดวันจันทร์ ควรตั้งชื่อเสริมดวงให้มีอักษรที่เป็น “ศรี “ นำหน้า และเสริมดวงด้วยอักษรอื่นๆ เช่น มนตรี เด่นด้านผู้ใหญ่อุปถัมภ์ และมูลละ เด่นด้านเงินทอง ทรัพย์สมบัติ แต่ห้ามใช้อักษรที่เป็นกาลกิณีเป็นอันขาด ได้แก่ สระ อะ อา อิ อี อึ อือ อุ อู เอ แอ โอ ไอ ใอ รวมถึงไม้หันอากาศ และ การันต์

ส่วนชื่อเด็กผู้หญิงที่เหมาะกับคนที่เกิดวันจันทร์ ควรเน้นเลขที่ส่งเสริมด้านศิลปิน หรือทำงานเกี่ยวข้องกับศิลปะ การแสดง การติดต่อประสานงาน ซึ่งได้แก่ชื่อเลข 24, 42

ทักษาอักษร สำหรับชื่อมงคลของคนเกิดวันจันทร์

อักษรที่เป็นบริวาร ได้แก่ ก ข ค ฆ ง
อักษรที่เป็นอายุ ได้แก่ จ ฉ ช ซ ฌ ญ
อักษรที่เป็นเดช ได้แก่ ฏ ฎ ฐ ฑ ฒ ณ
อักษรที่เป็นศรี ได้แก่ ด ต ถ ท ธ น
อักษรที่เป็นมูละ ได้แก่ บ ป ผ ฝ พ ฟ ภ ม
อักษรที่เป็นอุตสาหะ ได้แก่ ย ร ล ว ฤ
อักษรที่เป็นมนตรี ได้แก่ ศ ษ ส ห ฬ ฮ อ
อักษรที่เป็นกาลกิณี ได้แก่ สระ อะ อา อิ อี อึ อือ อุ อู เอ แอ โอ ไอ ใอ รวมถึงไม้หันอากาศ และ การันต์

ดูดวงเนื้อคู่ ดวงสมพงษ์นาคคู่

ตั้งแต่โบราณกาล การที่จะดูว่าคู่รักคู่ไหนจะรักกันราบรื่น รำ่รวยผาสุข หรือไม่ให้ดูตำราดวงนาคสมพงศ์นี้ โดยตำรานี้จะแบ่งนาคแต่ละตัวออกเป็นสามตอน คือ หัว กลาง และหาง

โดยวิธีการนับ ให้ชายนับจากหัวนาคไปหางนาค โดยเริ่มจากปีชวดเป็นปีแรก นับไปเรื่อยๆจนถึงปีที่เกิด ส่วนฝ่ายหญิงให้นับจากหางนาคไปยังหัวนาค

คำทำนาย

๑. ชายหญิงตกที่หัวนาคตัวเดียวกัน ทายว่า ดีนักแล ชายหญิงนั้นจะอยู่กินร่วมสุขร่วมทุกข์กันตราบเท่าอายุขัยวัยชรา มีความสุขกายสบายใจยิ่งนัก
๒. ชายหญิงที่ตกหัวนาคแต่เป็นนาคคนละตัว ทายว่า แม้จะแต่งงานกันด้วยความรักใคร่อย่างยิ่งมักจะหย่าร้างกัน หรือจะต้องเป็นหม้ายฝ้ายหนึ่งในไม่ช้าแล
๓. ชายหญิงที่ตกหางนาคตัวเดียวกัน ทายว่า จะอยู่กินกันอย่างร่มเย็นเป็นสุข ทำมาหาเลี้ยงชีพกันด้วยความรักใคร่ปรองดองกัน แม้จะสุขจะทุกข์ก็ไม่ทอดทิ้งกัน
๔. ชายหญิงตกที่ตกหางแต่เป็นนาคคนละตัว ทายว่า มักจะหย่าร้างกัน ไม่ดีเลย อยู่ด้วยกันมีแต่ความทะเลาะกัน
๕. ชายหญิงที่ตกกลางตัวนาคตัวเดียวกัน ทายว่า ดีจะมีทรัพย์สินเงินทองโภคสมบัติ อยู่กันอย่างร่มเย็นเป็นสุข
๖. ชายหญิงตกกลางตัวนาค แต่เป็นนาคคนละตัวกัน ทายว่า จะอยู่กินกันไม่ทันก้นหม้อข้าวดำ จะต้องจากกันไป
๗. ถ้าฝ่ายหนึ่งตกที่หัวนาคอีกฝ่ายหนึ่งตกที่หางนาค ซึ่งเป็นนาคตัวเดียวกัน ทายว่า เป็นคู่ผัวตัวเมียที่ปานกลาง
๘. ชายหญิงที่ตกกลางนาคร่วมจุดเดียวกัน ทายว่า คู่นั้นจะรักใคร่สมานสามัคคีกันดีนัก แต่จะลำบากมากกว่าสุข
๙. ชายหญิงฝ่ายหนึ่งตกที่หัวนาค หรือตกที่กลางตัวหรือตกที่หางนาค หรือร่วมจุดเดียวกันแห่งใดแห่งหนึ่งดังกล่าว ทายว่า คู่นั้นจะตกทุกข์ได้ยาก ลำบาก เดือดร้อนใจ ไม่ดีเท่าใดนัก

อีกนัยหนึ่ง ถ้าชายหญิงไล่เลียงดูแล้วปรากฏว่าตกจุดใดก็ตาม แต่เมื่อโยงออกมา ให้ทำนายแต่ละจุดดังนี้
ตกที่ เงิน โบราณท่านทายว่าดี
ตกที่ ทอง โบราณท่านทายว่าดีมากแล
ตกที่ แกลบ โบราณท่านทายว่าจะยากจน
ตกที่ ทราย โบราณท่านทายว่าจะเข็ญใจ

ลำดับขั้นตอนในการจัดงานศพ

0

สัจธรรมแห่งชีวิตที่มนุษย์ทุกคน และสัตว์ทุกจำพวกต้องเผชิญ นั่นก็คือ สัจธรรม4 อันได้แก่ “เกิด แก่ เจ็บ ตาย” ทุกๆคนล้วนต้องได้เจอ ไม่ว่าจน หรือรวย, ไม่แบ่งชั้นวรรณะ ไม่ว่าต่ำศักดิ์ หรือสูงศักดิ์, ไม่ช้าก็เร็ว เราทั้งหลายที่เกิดในภพ ในชาตินี้ล้วนหนีความตายไม่พ้น…

เปลวเทียนละลายแท่ง เพื่อเปล่งแสงอันอำไพ…

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า เคยตรัสถามพระอานนท์ว่า “อานนท์ ท่านระรึกถึงความตายวันละกี่ครั้ง”
พระอานนท์ตอบ “ข้าแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ข้าเจ้าระลึกถึงความตายวันละครั้ง”
สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ตรัสว่า “อานนท์เอ๋ย ท่านอยู่ในความประมาท เราระลึกถึงความตายทุกลมกายใจเข้าออก”

สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านสอนให้เราไม่ประมาท ให้ระลึกถึงความตายตลอดเวลา เพราะไม่มีใครรู้ว่าความตายจะมาถึงเราเมื่อไหร่… จากคาถาบท “อภิณหปัจจเวกขณปาฐะ” ได้กล่าวไว้ว่า

มะระณะธัมโมมหิ มะระณัง อะนะตีโต ( ญ . อะนะตีตา )
– เรามีความตายเป็นธรรมดา , จะล่วงพ้นความตายไปไม่ได้  
สัพเพหิ เม ปิเยหิ มะนาเปหิ นานาภาโว วินาภาโว

– เราจะละเว้นเป็นไปต่างๆ , คือว่าเราจะต้องพลัดพราก
จากของรักของเจริญใจทั้งหลายทั้งปวง

กัมมัสสะโกมหิ กัมมะทายา โท ( ญ . ทา ) กัมมะโยนิ กัมมะพันธุ
กัมมะปะฏิสะระ โณ ( ญ . ณา )

– เรามีกรรมเป็นของ ๆ ตน , มีกรรมเป็นผู้ให้ผล ,
มีกรรมเป็นแดนเกิด , มีกรรมเป็นผู้ติดตาม , มีกรรมเป็นที่พึ่งอาศัย

ยัง กัมมัง กะริสสามิ , กัล๎ยาณัง วา ปาปะกัง วา ,  
ตัสสะ ทายา โท ( ญ . ทา ) ภะวิสสามิ

– เราทำกรรมอันใดไว้ , เป็นบุญหรือบาป , เราจะเป็นทายาท ,
คือว่าเราจะต้องได้รับผลของกรรมนั้นๆ สืบไป

เอวัง อัมเหหิ อะภิณหัง ปัจจะเวกขิตัพพัง

– เราทั้งหลายควรพิจารณาอย่างนี้ทุกวันๆ เถิด

ขั้นตอนการจัดงานศพ

  1. การแจ้งตาย
    • ถึงแก่กรรมที่โรงพยาบาล ทางโรงพยาบาลจะออกใบรับรองแพทย์ เพื่อเป็นหลักฐานในการไปแจ้งตายที่นายทะเบียนท้องถิ่น หรือที่ว่าการอำเภอ.
    • ถึงแก่กรรมที่บ้าน เจ้าบ้านต้องแจ้งต่อนายทะเบียนท้องถิ่น (แพทย์ประจำตำบล ผู้ใหญ่บ้าน หรือ กำนัน) เพื่อขอใบรับรองการตาย เพื่อแจ้งตายที่ว่าการอำเภอ.
  2. การนำศพไปวัด
    • แจ้งความประสงค์ต่อเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลเพื่อหารถจัดส่งศพ หรือติดต่อวัด หรือมูลนิธิเพื่อจัดส่งศพ โดยปรกติทางมูลนิธิจะจัดส่งศพให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย
  3. การอาบน้ำศพ การรดน้ำศพ.
    • การรดน้ำศพโดยทั่วไปคือเวลา ๑๕.๐๐ -๑๗.๐๐ น.
    • ให้ลูกหลานคนใกล้ชิดทำการรถน้ำศพก่อน เพื่อมิให้แขกที่มาไม่ต้องเสียเวลารอนาน
    • เมื่อแขกรถน้ำศพแล้วจะเชิญท่านผู้ที่มีอาวุโสสูงสุดในที่นั้นรดน้ำศพเป็นคนสุดท้าย และไม่นิยมให้ใครมารถน้ำต่อจากนั้นอีก
  4. การบรรจุเก็บศพ
    • เมื่อรถน้ำศพเสร็จแล้ว สัปเหรอ จะทำการมัดตราสังข์ และทำการบรรจุศพ และโลงเย็น.
  5. การจัดงานบำเพ็ญกุศลสวดอภิธรรม
    • นิยมสวด ๑ คืน , ๓ คืน , ๕ คืน , ๗ คืน พระสวดอภิธรรม ๔ รูป และสวด ๒ จบ /๔ จบ ลงสวดเวลาประมาณ ๑๙ .๐๐ (หรือตามเวลาแต่ละท้องถิ่น)
    • แต่ละคืนจะมีเจ้าภาพ ญาติสนิท มิตรสหาย ร่วมเป็นเจ้าภาพสวด โดยจะจัดหาปัจจัยถวายพระ 4 รูปแล้วแต่ศรัทธา
  6. การฌาปนกิจศพ (การปลงศพ, เผาศพ)
    • โบราณท่านกล่าวไว้ว่า ห้ามเผาผีในวันพระและวันศุกร์ เพราะถือว่าสองวันนี้เป็นวันดี
    • ในวันฌาปนกิจศพ เจ้าภาพจะทำการเตรียม กำหนดการและแจ้งให้แขก ได้รับทราบ โดยปรกติจะให้มัฆทายกประกาศในระหว่างวันสวดบำเพ็ญกุศล หรือเขียนกำหนดการไว้ที่ศาลาสวดศพ.
  7. การเก็บอัฐิ
    • การเก็บอัฐิ เมื่อการฌาปนกิจเสร็จแล้ว การเก็บอัฐิ บางรายเก็บในตอนเย็นของวันเผาเลย ทั้งนี้ เพื่อ จะทำบุญอัฐิให้เสร็จในคราวเดียวกัน โดยเก็บอัฐิในเวลาประมาณ ๑๙.๐๐ น. แล้วนำไปตั้งบำเพ็ญกุศล เช่นเดียวกับพิธีก่อนเผาในคืนวันนั้น เวลาประมาณ ๒๐.๐๐ น. นิมนต์พระสงฆ์สวดพระพุทธมนต์ รุ่งขึ้นถวายภัตตาหารเช้า  แล้วนำอัฐิไปบรรจุหรือนำกลับไปไว้ที่บ้าน ก็เป็นอันเสร็จสิ้นพิธีฯ
  8. การลอยอังคาร
    • เมื่อเก็บอัฐิตามต้องการแล้ว  อัฐิที่เหลือ รวมทั้งเถ้าถ่านให้รวบรวมไปบรรจุ  ลอยแม่น้ำหรือฝังในที่เหมาะสมต่อไป

ทำบุญอัฐิ (ออกทุกข์)
เมื่อเก็บอัฐิตอนเช้าและนำอัฐิไปถึงบ้านแล้ว  จะทำบุญในวันนั้นทีเดียว  หรือจะพัก ๓ วัน หรือ ๗ วัน จึงทำบุญอัฐิได้  รายการในพิธีฯ ก็มีสวดมนต์เลี้ยงพระสงฆ์ บังสุกุล เทศน์ มีตั้งบาตรน้ำมนต์ เดินสายสิญจน์  เพราะเป็นการทำบุญเรือนให้เป็นสิริมงคลแก่ผู้อยู่ข้างหลัง  ในการทำบุญอัฐิ(ออกทุกข์) 

ราศีใดมีเกณฑ์ร่ำรวย ปี2562

0

ดวงชะตาราศีเกิดนั้นทุกๆคนล้วนเป็นไปตามกรรมที่ได้สร้าง ได้สะสมจากอดีตชาติ จนถึงปัจจุบันชาติ แต่ละคนล้วนมีดวงชะตะเป็นของตนเอง มีความเกี่ยวข้องเป็นพี่เป็นน้อง เป็นพ่อแม่ ลูกเมืย ล้วนเกิดจากกรรมที่เกี่ยวข้องกันทั้งสิ้น เมื่อมีวาสนาต่อกันก็สามารถจะเกื้อหนุนกันและกันในยามลำบาก เมื่อหมดวาสนาต่อกัน ก็จะพรัดพรากจากกันไปอยู่ยังแดนไกล

เรื่องของความร่ำรวย โชคลาภ ก็เช่นเดียวกัน แม้จะมีเกณฑ์ได้รับโชคลาภ ร่ำรวย เหมือนกันแต่ ก็จะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับบุญวาสนา ที่จะปรากฎในพื้นดวง ณ เวลาเกิด ไม่เหมือนกัน ถึงกระนั้นก็ถือว่าเป็นช่วงเวลาที่เหมาะในการกอบโกย เหมาะในการลงทุนลงแรง ที่ออกดอกออกผลได้อย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย เรามาดูกันว่าราศีใดที่มีเกณฑ์ที่จะทำให้ร่ำรวยในปีนี้

ราศีรวยปี 2562

ราศีกรกฎ

เด่นเรื่องการเงิน ประมาณเดือน กันยายน

ดาวราหู (8) ย้ายออกจาก ราศีกรกฏ นับตั้งแต่วันที่ 22 กพ 2562 ทำให้ความทุกข์ และเรื่องร้ายๆในปีที่ผ่านมาได้ผ่านพ้นออกไปแล้ว ชาวราศีกรกฏจะได้เริ่มต้นในสิ่งดีๆเข้ามา

ดาวพฤหัสบดี (5) ตั้งแต่วันที่ 25 พค 2562 ถึง 30 ตุลาคม 2562 ย้ายเข้าสู่ราศีพิจิก ภพปุตตะ ทำให้มีเกณฑ์ได้บุตร มีโชค มีลาภ เป็นจังหวะที่ดีในการเริ่มต้นกิจการงาน
ชาวราศีกรกฎมีดาวพฤหัสบดี เป็นมหาอุตม์ตามพื้นดวง ปัจจุบันอยู่ในราศีพิจิกเป็นมหาจักร

เดือนกันยายน ดาวอาทิตย์เป็นเกษตร ในภพกดุมภะ อยู่ราศีสิงห์ จะมีโชคลาภเรื่องเงินทองจะไหลมาเทมา

“มหาจักรฟักตัวขึ้นเป็นใหญ่ กว่าจะได้ต้องบุกบั่น ฟันโฉงเฉง”

ดาวเสาร์ อยู่ในเรือนอริ เรื่องความรักยังระหองระแหง ยังไม่ดีขึ้นเท่าไร ให้ทนอีกหน่อย จนถึงปี 2563 เดี๋ยวจะเริ่มดีขึ้น

เรื่องสุขภาพ ดาวราหู อยู่ภพวินาศ ดาวพฤหัสเดินหน้า โรคภายไข้เจ็บกระทันหันทันด่วนไม่ค่อยมี แต่ชาวลักขณาราศีกรกฎ ให้ระวังโรคนที่เกี่ยวข้องกับประสาท เส้นเอ็น ซึ่งเป็นโรคประจำตัวของชาวลักขณาราศีกรกฏ นั่นเอง

ราศีกุมภ์

เป็นลักขณา ที่จะมีการเปลี่ยนแปลง เป็นราศีที่โดดเด่นที่สุดในปีนี้

ดาวพฤหัสบดี (5) เป็นดาวเจ้าเรือนลาภะ(โชคลาภ) และเจ้าเรือนกดุมภะ (การเงิน) จะโคจรเดินหน้าในวันที่ 20 สิงหาคม 2562 ทำให้การเงินของชาวราศีกุมภ์ที่มันนิ่งๆ ไม่ค่อยขยับ ซึ่งดาวพฤหัสบดี เป็นมหาจักรในเรือนกัมมะ ซึ่งการเงินเข้าสู่เรือนการงาน ทำให้มีงานเข้ามามาก มีเกณฑ์ความก้าวหน้า มีเกณฑ์การเงินที่ส่งผลดีต่อดวงชะตา

ดาวพุธ (4) เจ้าเรือนมรณะ เล็งลักขณา นั่นหมายถึงจะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว แต่น่าจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี

เป็นลักขณาที่ดีที่สุด โดดเด่นที่สุดในบรรดา 12 ราศีในปีนี้ ตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคม และยังต่อเนื่องจนถึงปีหน้า พยายามตั้งรับให้ดี เพราะโอกาสและโชคลาภจะมาพร้อมกัน ต้องบริการจัดการให้ดี แล้วท่านจะโดดเด่นมาก

ราศีมีน

เป็นราศีที่กำลังงอกงามเป็นใหญ่ ผลิ ดอกออกผล

เดือนสิงหาคม เป็นเดือนที่ค่อนข้างเหนื่อยและมีอุปสรรค์ค่อนข้างมาก ได้ทำงานใหญ่ ดาว ๑ ๒ ๓ ๔ ๖ ๙ ย้ายสู่เรือนอริ ตั้งแต่เดือนสิงหาคม แต่ตัวท่านสามารถฝ่าฟันไปได้ เพราะตัวท่านคือดาวพฤหัสบดี เดินหน้าเป็นมหาจักร เหมือนที่โบราณว่า มารไม่มี บารมีไม่เกิด มีการแข่งขัน มีการต่อสู้ ทำให้ดาวประจำตัวของท่านเติบโตเป็นใหญ่ เจริญงอกงาม ในอนาคต

“มหาจักรฟักตัวขึ้นเป็นใหญ่ กว่าจะได้ต้องบุกบั่น ฟันโฉงเฉง”

ดาวพฤหัสบดี (5) เข้าสู่ราศีพิจิก ในภพศุภะ เป็นมหาจักร ศุภะ หมายถึงการเดินทางไกล ต่างประเทศ

ดาวเสาร์ (7) ดาวเสาร์เป็นเจ้าเรือนลาภะ อยู่ในภพกัมมะ จะส่งผลดีต่อเจ้าเรือนลักขณาราศีมีน และดาวราหู ได้เกณฑ์ส่งผลดีกับเจ้าชะตา

เคล็ดลับไหว้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ใช้ธูปกี่ดอก

หลายๆท่านอาจคุ้นเคยในการจุดธูปบูชาพระพุทธ ซึ่งเรามักจะใช้ธูปสามดอก ที่มีความหมายถึงการบูชาพระพุทธ บูชาพระธรรม และบูชาพระสงฆ์ แต่ก็มีข้อสงสัยต่ออีกไปว่า หากบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิอื่นๆนั้นเราควรจุดธูปกี่ดอกกันแน่ วันนี้ โหราจารย์ดอทคอม จะพามาทำความเข้าใจเพื่อท่านจะได้นำไปใช้อย่างถูกต้องต่อไป

จุดธูปกี่ดอกหมายถึงอะไร

ธูป 1 ดอก : เป็นการไหว้ศพ ไหว้ผีบ้านผีเรือน ไหว้ผีเจ้าที่ เป็นการไหว้แบบเน้นและเจาะจงวิญญาณนั้นๆ

ธูป 2 ดอก : เป็นการไหว้วิญญาณ การไหว้ปักธูปบนอาหาร

ธูป 3 ดอก : เป็นการไหว้ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์

ธูป 4 ดอก : เป็นการไหว้เสริมดวงชะตา

ธูป 5 ดอก : เป็นการบูชา พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ คุณบิดา คุณมารดา คุณครูบาอาจารย์

ธูป 6 ดอก : เป็นการไหว้เสริมดวงชะตา กำลังพระอาทิตย์

ธูป 7 ดอก : เป็นการไหว้รำลึกคูณ ของครูบาอาจารย์ที่เสียชีวิตไปแล้ว

ธูป 8 ดอก : เป็นการไหว้เสริมดวงชะตา กำลังพระอังคาร

ธูป 9 ดอก : เป็นการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ ศาลเทพ รุกขเทวดา ศาลพระภูมิ

ธูป 10 ดอก : เป็นการไหว้เสริมดวงชะตา กำลังวันเสาร์

ธูป 11 ดอก : เป็นการไหว้เทวดาชั้นสูง

ธูป 12 ดอก : เป็นการไหว้เสริมดวงชะตา กำลังพระราหู ไหว้พระราหู

ธูป 13 ดอก : ไม่นิยม

ธูป 14 ดอก : เป็นการไหว้บูชารูปปั้นพระสงฆ์ รำลึกคุณพระสงฆ์

ธูป 15 ดอก : เป็นการไหว้เสริมดวงชะตา กำลังพระจันทร์

ธูป 16 ดอก : เป็นการไหว้บูชาเทพชั้นสูง บูชาเทวดาทั้ง16 ชั้นฟ้า ไหว้พระพรม

ธูป 17 ดอก : เป็นการไหว้เสริมดวงชะตา กำลังพระพุธ

ธูป 18 ดอก : ไม่นิยม

ธูป 19 ดอก : เป็นการไหว้บูชาครู เสริมดวงชะตา กำลังพระพฤหัสบดี

ธูป 20 ดอก : เป็นการไหว้สวดเสริมดวงชะตา

ธูป 21 ดอก : เป็นการไหว้บูชาพระแม่ธรณี และเสริมดวงชะตา กำลังดาวพระศุกร์

ธูป 32 ดอก : เป็นการไหว้ สวดชุมนุมเทวดาทั้งสี่ทิศ 16 ชั้นฟ้า 15 ชั้นดิน และโลกมนุษย์

ธูป 38 ดอก : เป็นการไหว้บูชาพระธรรม

ธูป 39 ดอก : เป็นการไหว้พระแม่โพสพ

ธูป 56 ดอก : เป็นการไหว้บูชาคุณพระพุทธเจ้า

ธูป 108 ดอก : เป็นการไหว้ ประกอบพิธีเสริมดวงชะตา ไหว้บูชาสิ่งศักดิ์ทั่วสากลโลก

ผู้เกิดปีมะแม (แพะ) ธาตุทอง

  • นิสัยของคนเกิดปีนี้ส่วนมาก  เป็นคนเอาการเอางาน และมีความเชื่อถือในความคิดของตนเองเป็นใหญ่  เป็นคน ที่มีสติปัญญาปานกลาง   เป็นคนที่รักการศึกษาหาความรู้อยู่อย่างเสมอ รักความก้าวหน้า สร้างความก้าวหน้าให้  แก่ตนเองได้ดี   มีวาสานาดี พอเสมอตัว ไม่ทำให้ตกทุกข์ได้ยาก นิสัยส่วนตัวทั่วไป เป็นคนที่ไม่ชอบการขัดใจ  เพื่อนฝูง และ ไม่ชอบให้ใครมาชักจูง ชอบการเป็นอยู่อย่างง่ายๆ ไม่ต้องเป็นระเบียบมากนัก  และ มีอารมณ์   ความรู้สึกทางเพศรุนแรง  บางคนเปลี่ยนคู่บ่อยครั้ง  การเข้าสังคมของคนเกิดปีนี้ พอเข้ากับเข้าได้แต่ไม่ชอบออกหน้าออกตา เปรียบเหมือนคนชอบปิดทองหลังพระ โดยการช่วยเหลือ หรือ สนับสนุนคนอื่น อย่าง เงียบๆ ไม่เปิดเผยตนเอง
  • อาชีพของคนเกิดปีนี้เหมาะทำงาน ด้านการค้าขาย  หรือ ธุรกิจส่วนตัว ถ้าเป็นขนาดใหญ่ต้องมีที่ปรึกษา คอยช่วย เหลือ
  • เนื้อคู่ของคนเกิดปีนี้  เหมาะกับ คน เกิด ปี มะโรง และปีมะแม  ปีธาตุเดียวกัน  แต่เรื่องคู่ครองก็ต้องระวังเรื่องการแยกทางกันบ่อยครั้ง

อ่านคำทำนาย 12 นักษัตรอื่นๆ
ปีชวด | ปีฉลู | ปีขาล | ปีเถาะ | ปีมะโรง | ปีมะเส็ง | ปีมะเมีย | ปีมะแม | ปีวอก | ปีระกา | ปีจอ | ปีกุน

ผู้เกิดปีระกา (ไก่) ธาตุเหล็ก

  • คนเกิดปีนี้ นิสัยใจคอกว้างขวาง รักลูกรักเมีย และครอบครัว  ตลอดจนเพื่อนฝูงและบริวาร  ถ้าเป็นชายจะมักมากในทางกามารมณ์  หมกมุ่นในเรื่องทางเพศ จนลืมตนเอง ถ้าเป็นหญิง จะได้สามีที่ดี มีหลักฐานการงานมั่นคงดี    และก็จะเป็นภรรยาที่ดีต่อครอบครัว  คนเกิดปีนี้เป็นคนที่มีเสนห์ ต่อเพศตรงข้าม รักครอบครัวแต่คนเกิดปีนี้มี  อำนาจวาสนา  ตกทุกข์ได้ยากอย่างไร ก็ดิ้นรนไปได้ดี  จนสร้างหลักฐานฐานะของตนเองอย่างมั่นคงต่อไป จะ  สำเร็จได้เมื่อล่วงเข้าวัยกลางคน  คนเกิดปีนี้ถ้าเป็นคนที่มีการศึกษาดี จะได้ดีในวงงานราชการ ถ้ามีการศึกษาน้อย เหมาะในทางการค้า   แต่ถ้าไม่ได้ศึกษาเล่าเรียนแล้ว บางคนจะเด่นดังไปในทาง มิจฉาชีพ  
  • อาชีพของคนที่เกิดในปีนี้ เหมาะกับการรับราชการ ทหาร ตำรวจ  เพราะชอบการเป็นผู้นำ เพราะเป็นคนที่มีการณ์มองไกล
  • เนื้อคู่ของคนเกิดปีนี้ เหมาะสำหรับ คนเกิดปีชวด  และ ปีกุน  แต่เนื้อคู่มักจะเป็นหม้ายอายุมากว่า  และมีหลักฐานดีในวงการเงิน

อ่านคำทำนาย 12 นักษัตรอื่นๆ
ปีชวด | ปีฉลู | ปีขาล | ปีเถาะ | ปีมะโรง | ปีมะเส็ง | ปีมะเมีย | ปีมะแม | ปีวอก | ปีระกา | ปีจอ | ปีกุน

ตำราปลูกบ้านวันให้เป็นมงคล

คนโบราณครูบาอาจารย์ทางโหราศาสตร์ ท่านกำหนดไว้ว่าลงเสาเอกให้ใช้ วันจันทร์ วันพุธ วันพฤหัสบดี ส่วนวันศุกร์ดีร้ายเท่ากัน(แต่ขึ้นบ้านใหม่ให้ใช้วันพุธ วันพฤหัสบดี วันศุกร์ครับ).เช่นครูบาอาจารย์ท่านเขียนไว้

  • ปลูกเรือนในวันอาทิตย์ ทุกข์ตามติดทุกวันไป เร่าร้อนรำคาญใจ เกิดแก่ตนพ้นพันทวี
  • ปลูกเรือนในวันอังคาร บ่มินานเกิดพยาธิ์ อัคคีไหม้เคหา วอดวายมาสู่ยังตน
  • ปลูกเรือนในวันเสาร์ อย่าดูเบาจงหลีกหนี ซบเซาเศร้าโศกี ตามคัมภีร์โบราณมา
  • ปลูกเรือนในวันศุกร์ เดี๋ยวสุขเดี๋ยวทุกข์มา ทั้งลาภาไม่ค่อยมี
  • ปลูกเรือนในวันจันทร์ ลาภอนนันต์ บังเกิดมี ผ้าผ่อนเงินทองทวี แสนเปรมปรีดิ์ในอุรา
  • ปลูกเรือนในวันพุธ บริสุทธิ์จำเริญผล ลาภยศก็มาดล ล้วนแล้วผลพึงยินดี
  • ปลูกเรือนในวันพฤหัส สุขจรัสสราญศรี ลาภานานามี เป็นสุขขีดีหนักหนา